หลักการเลือกร้านม่าน
      ม่านเพิ่มความงามให้กับบ้าน ปัจจุบัน "ม่าน" เป็นวัสดุตกแต่งบ้านที่สำคัญและขาดไม่ได้เพราะบานประตู-หน้าต่างของบ้านทุกวันนี้มักเป็นกระจก จึงต้องหาม่านมากันแสงเข้าสู่ตัวบ้านมากเกินไปและกันสายตาเพื่อนบ้านโดยเฉพาะยามค่ำคืน
      ม่านที่นิยมใช้กันตามบ้านโดยทั่วไปมักใช้ผ้าเป็นวัสดุหลักสำหรับทำผ้าม่านโดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะการผิตมาเพื่อทำม่านโดยเฉพาะมีคุณสมบัติ ไม่อมฝุ่น ไม่ยืด ไม่หด ไม่เปือยยุ่ยหรือแห้งกรอบเร็วเกินไป ( ถ้าใช้ผ้าธรรมดาจะเจออาการเหล่านี้ภายในไม่กี่ปีโดยเฉพาะด้านที่ม่านต้องรับแดดจัดๆ ) ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ผ้าที่เอาไว้ทำม่านราคาสูงกว่าผ้าปกติทั่วไป


      แต่ด้วยความหลากหลายของรสนิยมและผลิตภัณฑ์ ม่านที่ทำด้วยวัสดุอื่น ๆ เช่น โลหะเคลือบสีพลาสติก หรือเส้นใยอัดเป็นแผ่นคล้ายผ้า เรียงกันเป็นริ้วแนวตั้งหรือแนวนอน ซึ่งสามารถปรับมุมเอียงของแถบม่านได้ทำให้ห้องเกิดบรรยากาศได้หลายแบบแตกต่างกันไปตามความเข้มของแสงและมุมของแสง แต่บางทีอาจให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง ไปบ้างซึ่งก็อาจแก้ไขได้ด้วยการผสมผสานกับม่านผ้าโปร่งหรือเลือกลวดลายที่เป็นธรรมชาติ
      รูปแบบของม่านว่ากันตามหลักวิชาก็ควรเลือกม่านให้เข้ากับสไตล์ของเครื่องเรือน แต่ในปัจจุบันมักขึ้นอยู่กับความชอบมากกว่าที่จะยึดติดอยู่กับสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง
ข้อพึงระวังเมื่อสั่งทำม่าน
1. ม่านสีสด / ลายดอก / ม่านผ้าไหม ไม่ควรอยู่ทางฝั่งที่รับแดดจัด
2. ม่านโรมัน ( ม่านพับ ) เหมาะสมกับบานหน้าต่างแบบยาวๆ แคบๆ สูงๆ แต่ถ้าติดกับหน้าต่างบานสั้นๆ ควรติดไว้เหนือบานจริงสัก 30 นิ้วขึ้นไป มิเช่นนั้นอาจทำให้ม่านโรมันที่เก๋ไก๋กลายเป็นม่านที่มีหน้าตาลม้ายคล้ายกันสาดไปในที่สุด
3. ทศวรรษนี้นิยมม่านที่มีลอนฟู พริ้วไสว แม้เป็นม่านหนา จึงไม่นิยมรีดอัดจีบและถ่วงโซ่ที่ชายม่าน ฉะนั้นหากต้องการม่าน in trend เวลาสั่งทำควรเน้นกับร้านให้มั่นเหมาะ
HOME
BACK